ค้นหา

สภาอุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรสงคราม ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา

เลขที่ สอท.สส.2556/001

                                                                                                วันที่  8   เดือน มกราคม  พ.ศ. 2556

 

เรื่อง     ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการประสานการแก้ไข ความผิดพลาดของจำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับอนุสัญญาแรมซ่าร์ ที่มากกว่าพื้นที่รวมทั้งจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งส่งผลต่อสิทธิของประชาชน และ สิทธิชุมชน

เรียน     คุณ บุญส่ง  โควาวิสารัช ประธาน คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา

                        สภาอุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรสงคราม ขอรบกวน คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา ในการตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม ที่กำหนดมากกว่าจำนวนรวมของพื้นที่บนบกและพื้นที่ในทะเลของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งความผิดพลาดของจำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนภายในจังหวัดสมุทรสงคราม และสร้างความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จนอำนาจตุลาการอาจจะประสานรอยร้าวของความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้

                        พื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม ขึ้นทะเบียนกับอนุสัญญาแรมซ่าร์ ใน ลําดับที่ 1099 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2544 มีจำนวนพื้นที่ 546,875 ไร่ หรือ 875 ตร.กม. โดยรวมทั้งพื้นที่บนบกและในทะเลของ ตำบลบางจะเกร็ง ตําบลแหลมใหญ่ ตําบลบางแก้ว และตำบลคลองโคน แต่จำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ที่ขึ้นทะเบียนดังกล่าว มีจำนวนมากกว่าจำนวนพื้นที่รวมทั้ง 4 ตำบลข้างต้น ที่มีเพียง 69,106.25 ไร่ (110.57 ตร.กม.)โดยแบ่งเป็นพื้นที่บนบก 55, 356.25 ไร่ (88.54 ตร.กม.) และ พื้นที่ในทะเล (ตามประกาศพื้นที่จังหวัดในทะเล พ.ศ. 2505) จำนวน 13,750 ไร่ (22 ตร.กม.)  ซึ่งพื้นที่แรมซ่าร์ดังกล่าวยังมากกว่า พื้นที่รวมทั้งหมดของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่มีพื้นที่ 274,192 ไร่ (438.707 ตร.กม.) แบ่งเป็น พื้นที่บนบก จำนวน 260,442 ไร่ (416.707 ตร.กม.) และ พื้นที่ในทะเล จำนวน 13,750 ไร่ (22 ตร.กม.) โดยคำนวณจาก 1 ตร.กม. เท่ากับ 625 ไร่

                        ส่วนราชการ และผู้รับจ้างจากส่วนราชการ ที่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับ พื้นที่ชุ่มน้ำฯ(แรมซ่าร์) ในการกำกับ ดูแลที่ดินของส่วนราชการ หรือที่สาธารณะส่วนกลาง โดยให้การสงวนรักษาอย่างเข้มข้น ส่งกระทบให้เกิดการออกข้อกฎหมายและข้อบังคับทางปกครอง ต่อประชาชนอย่างรุนแรงในการ ตัด ลด จำกัด และ ริดรอน สิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินบนเอกสารสิทธิที่ประชาชนถือครองอยู่ ในลักษณะเสมือนเป็น พื้นที่ป่าสงวนหรือพื้นที่ป่าต้นน้ำสำคัญ ที่ดูแลโดยส่วนราชการ ซึ่ง สวนทางกับ การเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดของอัตราภาษีและอากร ที่ส่วนราชการเก็บจากประชาชนที่ถือครองแปลงที่ดินในพื้นที่แรมซ่าร์ แม้ประชาชนจะดำเนินการร้องขอให้เพิ่มสิทธิการใช้ที่ดินในที่ดินที่ตนถือครอง ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดหรือตามวิธีที่ราชการกำหนด ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง สร้างเงื่อนไขเพิ่ม และปฏิเสธคำร้องเกือบทั้งหมด ด้วยเหตุผล เกรงว่าประเทศไทยจะเสียชื่อเสียงจากการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของอนุสัญญาแรมซ่าร์ ที่ให้ไว้ หรือเกรงว่าจะเป็นประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่ต้องขอลดพื้นที่แรมซ่าร์ ดังตัวอย่าง ที่ปรากฏ ใน ร่างผังเมืองรวมเมืองสมุทรสงคราม ที่กำหนดวัตถุประสงค์ ขั้นตอนดำเนินงาน ขั้นตอนพิจารณาคำร้อง เหตุผลประกอบการยกคำร้องของคณะที่ปรึกษาฯ คณะอนุกรรมการฯ ตลอดจนคณะกรรมการผังเมือง เพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ผ่านข้อกำหนดการใช้ที่ดินประเภทต่างๆ

                        ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน และ ถูกต้อง ในเรื่องจำนวนพื้นที่ดังกล่าว สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสงคราม จึงขอรบกวน  คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ซึ่งเป็น ผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กระทำกิจการ พิจารณาสอบสวน หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการจัดการที่ดิน การจัดการทรัพยากรน้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ตลอดจนการส่งเสริม บำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อม ศึกษาปัญหาการใช้ การป้องกัน การแก้ไข การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตรวจสอบและประสานแก้ไข จำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอดให้ถูกต้อง เพื่อแก้ไข และลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับส่วนราชการ สร้างความชัดเจนและป้องกันความผิดพลาดในการออกข้อกฎหมายและข้อบังคับทางปกครอง ที่กระทบสิทธิประชาชนในที่ดินที่ถือครอง ซึ่งคาบเกี่ยวกับที่ดินที่ถือครองโดยส่วนราชการ เพื่อให้สามารถควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างถูกต้อง จากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการท้องถิ่น  ราชการส่วนกลาง และ ผู้รับจ้างจากส่วนราชการต่างๆ  ที่ต้องนำไปปฏิบัติ ตลอดจนสถานบันการศึกษาต่างๆ บนฐานข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง และยึดหลักธรรมาภิบาล รวมทั้งมีความชัดเจน โปร่งใสในการชี้แจงต่อสมาชิกประเทศต่างๆในอนุสัญญาแรมซ่าร์ ที่อาจมีข้อสงสัยในเรื่องดังกล่าว

                        จึงเรียนมาเพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการประสานการแก้ไข ความผิดพลาดของจำนวนพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับอนุสัญญาแรมซ่าร์ ที่มากกว่าพื้นที่รวมทั้งจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งส่งผลต่อสิทธิของประชาชนและสิทธิชุมชน

                                                                                                ขอแสดงความนับถือ

 

                                                                                            (นางปราณี   วนาวันวิศาล)

                                                                                ประธานสภาอุตสาหกรรม จังหวัดสมุทรสงคราม